บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

จักรพรรดิช่วยสอน-ฝุ่น


หลังจากเผยแพร่บทความ “จักรพรรดิช่วยสอน” ไปแล้ว มีผู้ไม่เห็นด้วยมาให้ความเห็น ดังนี้

ผมเห็นแล้ว อยากบอกว่ามันน่าจะเป็นฝุ่นที่เผอิญจังหวะที่กดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป แสงจากกล้องไปกระทบโดนฝุ่นนั้นครับ เลยเห็นเป็นจุดวงๆแบบนั้น

โดยปกติแล้ว ญาติผมเคยไปถ่ายรูปงานศพหรือสถานที่ท่องเที่ยวช่วงกลางคืน หรือช่วงโพล้เพล้ก็จะเห็นฝุ่นเป็นวงๆ เป็นเรื่องปกติครับ

โดยฝุ่นนั้นจะคล้ายๆ จักรแก้ว แต่ว่ามันก็คือฝุ่นธรรมดาที่โดนแสงจากแฟลชสะท้อนเท่านั้นเองครับ

ข้อความดังกล่าวไม่ขึ้นที่บทความ (ในคอมฯ ของผม)  แต่ไปขึ้นที่อีเมล์ของผม  ผมเลยถือโอกาสมาเขียนไว้ในอีกบทความหนึ่งเลย

สำหรับความเห็นที่เขียนมา ผม no comment

ท่านจะเชื่ออย่างไรก็ตามแต่ท่านจะชอบ แต่ขออธิบายเรื่องทำนองนี้ ที่เกิดขึ้นมาแล้ว และประชาชนยัง โง่ไปตามนักวิทยาศาสตร์ที่งมงาย เห็นว่าเรื่องคล้ายกัน

จำได้ว่า ในช่วงนั้น มีคนนำภาพถ่ายที่มี ดวงในลักษณะเดียวกับที่ผมเสนอไป ออกเผยแพร่สู่สาธารณชน 

มีนักวิทยาศาสตร์คัดค้านกับเป็นจำนวนมากว่า เป็นฝุ่นบ้าง เป็นความผิดปกติของกล้องบ้าง

จำได้ว่ามีการออกรายการทีวีและหนังสือพิมพ์ด้วย

นักวิทยาศาสตร์ทำอย่างนี้  คือ  นักวิทยาศาสตร์เห็นว่า ความชื้นกับฝุ่นในอากาศอาจจะทำให้เกิด ดวง  ได้

นักวิทยาศาสตร์ที่งมงายก็จัดการทดลองแบบโง่ๆ คือ ถูกในทางวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ถูกในทางตรรกศาสตร์หรือตรรกวิทยา และไม่ถูกไม่ทางปรัชญา ดังนี้

คือ นำพัดลมมาเป่า  นำน้ำมาฉีดให้เป็นฝอย  นำแป้งมาสาดออกไป แล้วก็พยายามถ่ายรูปกันออกมา

ถ่ายกันไปมากเท่าไหร่ก็ไม่รู้  แต่ก็ได้ภาพ ดวง ที่เกิดจากการทดลองดังกล่าว มาเผยแพร่อวดประชาชนได้ 

แล้วก็สรุปแบบโง่ๆ ว่า  ดวง แบบที่ผมเสนอมานั้น โกหก ไม่เป็นจริง

ผมได้เกริ่นๆ ไปแล้วว่า นักวิทยาศาสตร์ที่ทดลองนั้น โง่ และ งมงาย ต่อไปจะอธิบายว่า นักวิทยาศาสตร์พวกนั้น โง่และ งมงายอย่างไร

1) พวกนี้งมงายในวิทยาศาสตร์

พวกนี้เชื่อวิทยาศาสตร์เก่าแบบกลไก แยกส่วน ลดทอนของนิวตันอย่างหัวปักหัวปำ วิทยาศาสตร์เป็นจริงอย่างเดียว อย่างอื่นผิดทั้งหมด 

ผมจึงบอกว่า พวกนี้ งมงาย

2) การทดลองนั้นผิด 

การทดลองที่นักวิทยาศาสตร์ทำมานั้น พิสูจน์ได้แต่เพียงว่า  ถ้าเราเอาน้ำฉีดให้เป็นละออง เพื่อให้เกิดความชื้น และนำแป้งสาดออกไป แล้วใช้กล้องถ่ายด้วยแสงแฟลช สามารถ เกิดดวงในภาพถ่ายได้

แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า รูปถ่ายที่ติดดวงมา และมีคนนำมาเผยแพร่นั้น ผิด

เพราะ ตอนที่เขาถ่ายรูปนั้น คนถ่ายรูปไม่ได้เอาน้ำฉีด ไม่ได้เอาแป้งสาด เขาถ่ายกันเล่นๆ บ้าง ถ่ายเอาจริงบ้าง  โดยไม่นึกว่า จะมีดวงติดมาในภาพ

ถ้าจะพิสูจน์ผิดกันจริง ซึ่งทำได้ยาก ก็ต้องไปถ่ายทำกันในสถานที่เกิดเหตุ  ควบคุมสิ่งแวดล้อมให้เหมือนตอนถ่ายภาพติดดวงทุกอย่าง

แล้วก็พิสูจน์ผิดให้ได้

อย่างไรก็ดี ถ้าตรงไหนไม่มีฝุ่น ไม่มีละออง พูดง่ายๆ ให้ชัดๆ ก็คือ ในที่ๆ ที่เป็น “สุญญากาศ” จักรพรรดิจะทำให้เห็นเป็นดวงอย่างนี้ได้หรือไม่

ผมขอฟันธงไปเลยว่า “ไม่ได้” เพราะจักรพรรดิต้องพึ่งพิงพวกฝุ่น ละอองหรือความชื้นในอากาศเพื่อช่วยสร้างดวงขึ้นมา

ในกรณีนี้ ถ้านักวิทยาศาสตร์ไม่ต้องการ “โจมตี” การเห็นดวงมากเกินไป เสนออย่างเป็นกลางๆ ว่า ในทางวิทยาศาสตร์สามารถทำได้เหมือนกัน  แต่ในทาง “ธรรมชาติที่เป็นศาสนา หรือจะเป็นไสยศาสตร์” ก็ทำได้เช่นกัน

นักวิทยาศาสตร์ท่านผู้นั้น ก็จะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ “งมงาย” ในวิทยาศาสตร์ขึ้นมาทันที

ขอแถมสำหรับท่านผู้อ่านนิดหนึ่ง

จักรพรรดิกับพวกเรานั้น เราติดต่อพูดคุยกันได้  ไม่ใช่เราเห็นแค่ดวงในภาพถ่าย  กายของท่านเราก็เห็น 

สิ่งที่จักรพรรดิแสดงออกเป็นดวงในภาพถ่ายนั้น เป็นแค่เรื่องหนึ่งของท่านเท่านั้น  ท่านยังทำสิ่งอื่นๆ ได้อีกมากมาย

เรื่องนี้ต้องเรียนวิชาธรรมกาย  ฝึกให้ผ่าน 18 กาย เรื่องถ่ายเรื่องติดดวงในภาพนั้น เป็นเรื่องเล็กมาก 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น